หมวดสินค้า
ทั้งหมด (353)
01. เตียงผู้ป่วย (Hospital bed) (6)
02. รถเข็นผู้ป่วย (Wheel chair) (41)
03. เครื่องวัดความดัน (Blood pressure monitor) (21)
04. เครื่องดูดเสมหะ / น้ำมูก (Suction) (8)
05. เครื่องพ่นละอองยา (Nebulizer) (16)
06. เครื่องวัดน้ำตาล (Glucose monitor) (14)
07. เครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen generator) (9)
08. เก้าอี้นั่งถ่าย (Commode chair) / เก้าอี้อาบน้ำ (Bath bench) (18)
09. ที่นอนลม (Matress) (6)
10. รถเข็นช่วยเดิน (Rollator) (5)
11. ไม้เท้า / ไม้ค้ำ / วอคเกอร์ (Walker) (19)
12. เครื่องวัดปริมาณออกซิเจน (Oximeter) (8)
13. หูฟังหัวใจ (Stethoscope) (3)
14. อุปกรณ์ตรวจหู ตา คอ จมูก (Otoscope,Opthalmoloscope) (5)
15. เบาะหมอนสุขภาพ (Healthy pillow & Mattress) (4)
16. แผ่นลดไข้ / ปั๊มนม / ลูกยาง (1)
17. โต๊ะคร่อมเตียง (Overbed table) (8)
18. เครื่องชั่งน้ำหนัก (Weigher) (20)
19. จักรยานกายภาพ (2)
20. ชุดทำแผลและเฝือก (3)
21. ถุงน้ำร้อน / เครื่องประคบร้อนลดการปวด (Thermo pad) (7)
22. ปรอทวัดไข้ / วัดอุณหภูมิ (Thermometer) (10)
23. ผ้าพันแผล / ผ้าพันเคล็ด (0)
24. ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และผู้ป่วย (Adult daipers) (3)
25. เข็มขัดพยุงหลัง (Back support) (2)
26. เครื่องนับก้าว (Pedometer/Step counter) (1)
27. อุปกรณ์สแตนเลส (Stainless instruments) (19)
28. เครื่องช่วยฟัง (Hearing aid) (2)
29. หม้อนึ่งฆ่าเชื้อ (Autocave) (2)
30. เครื่องวัดความจุปอด (Spirotest) (2)
31. โคมไฟส่องตรวจ/โคมไฟผ่าตัด (Examination lamp) (12)
32. อุปกรณ์ให้อาหารสุนัขแมว (Pet feeder) (7)
33. เครื่องช่วยฟังเสียงทารกในครรภ์ (Fetal dopler) (2)
34. เครื่องนวดอัตโนมัติ (Automatic Compressor Therapy) (6)
35. เก้าอี้นั่งเด็ก (Baby chair) (1)
Vitamins - Blackmore (11)
Vitamins - Mega (30)
Vitamins - Vistra (15)
Vitamins - เสริมสร้างกร้ามเนื้อ (0)
อื่นๆ (4)
เข้าสู่ระบบ
ตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้า
สินค้าขายดี
00538: เตียงไฟฟ้าปีกผีเสื้อ 4 ฟังก์ชัน (Three function electric bed).html 00538: เตียงไฟฟ้าปีกผีเสื้อ 4 ฟังก์ชัน (Three function electric bed) 0 บาท

00033: รถเข็นอัลลอยด์โซม่า รุ่น SM-150.3 F24.html 00033: รถเข็นอัลลอยด์โซม่า รุ่น SM-150.3 F24 0 บาท

00037:  เทอโมมิเตอร์วัดไข้ที่หน้าผาก (Microlife Infrared Forehead Thermometer FR1DZ1).html 00037: เทอโมมิเตอร์วัดไข้ที่หน้าผาก (Microlife Infrared Forehead Thermometer FR1DZ1) 2,650 2,150 บาท
รับข่าวสารทางอีเมล
Facebook
แท็ก
Excellenthealth fanpage
โรคสมองเสื่อม (โรคอัลไซเมอร์)
โดย : admin | เมื่อ : 2013-09-27 23:08 | เข้าชม : 2426

 
 

โรคสมองเสื่อม | โรคอัลไซเมอร์ |dementia | alzheimers

ทุกท่านคงเคยได้ยิน ได้ฟัง เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ แต่จะรู้จักมากน้อยแค่ไหน สงสัยว่าตนเองหรือญาติป่วยเป็นโรคนี้หรือไม่ และจะทำอย่างไรต่อไป เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้สักหน่อยดีไหม

อัลไซเมอร์ เป็นโรคสมองเสื่อมชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะมีการเสื่อมของเซลล์สมองทุกส่วนเป็นแล้วไม่มีวันหาย ผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่สามารถแยกทุกผิด มีปัญหาในเรื่องการใช้ภาษา การประสานงานของกล้ามเนื้อเสียไป ความจำเสื่อม ในระยะท้ายของโรคจะสูญเสียความจำทั้งหมด  ในสหรัฐประมาณว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคนี้กว่า3-4 ล้านคน และจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก เนื่องจากประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 2-4 % ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ยิ่งอายุมากขึ้นก็จะพบผู้ป่วยด้วยโรคนี้มากขึ้น กล่าวคือจะพบเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 5 ปี หลังอายุ 60 ปี

แม้ว่าโรคนี้จะไม่สามารถป้องกัน และไม่สามารถรักษา ญาติสามารถช่วยผู้ป่วยโดยการศึกษาโรคนี้และช่วยผู้ป่วยอย่างถูกวิธี



สาเหตุของโรค 

  1. จากความผิดปกติในเนื้อสมองจะพบลักษณะที่สำคัญสองอย่างคือกลุ่มใยประสาทที่พันกัน Neurofibrillary Tangles.และมีสาร Beta Amyloid ในสมอง ใยสมองที่พันกันทำให้สารอาหารไม่สามารถไปเลี้ยงสมอง การที่สมองมีคราบ Beta Amyloid หุ้มทำระดับ acetylcholine สมองลดลงสาร acetylcholine จะมีส่วนสำคัญในเรื่องการเรียนรู้และความจำ
  2. การอักเสบ inflammatory สาร amyloid เมื่อสลายจะให้สารอนุมูลอิสระออกมา อนุมูลนี้จะทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์สมอง
  3. กรรมพันธุ์ โรค Alzheimer ทีเกิด late onset จะมีการเพิ่มของ gene ที่ควบคุมการสร้าง apolipoprotein E4 (ApoE 4) ส่วนที่เกิด early onset จะมีการเปลี่ยนแปลงของ gene presenilin-1 (PS1) และ presenelin-2 (PS2)

อาการเด่นของโรคอัลไซเมอร์ ก็คือ ความจำเสื่อมหรือ หลงลืม เรื่องที่ลืมก็จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ลืมปิดเตารีด ลืมกินยา  หรือใครมาพบวันนี้ ลืมชื่อคน ลืมของ หาของใช้ส่วนตัวไม่พบ ชอบพูดซ้ำ ถามคำถามซ้ำ เพราะจำคำตอบไม่ได้ มีปัญหาเรื่องการพูดและการใช้ภาษา คือจะคิดคำศัพท์บางคำไม่ออก ใช้คำใกล้เคียงแทน สติปัญญาความเฉลียวฉลาดลดลง ทักษะต่างๆ จะเริ่มสูญไป อารมณ์หงุดหงิด และอาจท้อแท้ เพราะอาการดังกล่าว

การดำเนินโรค

อาการจะเริ่มเป็นตอนอายุ 65 ปี แต่บางรายเป็นเร็วกว่านั้นอาจจะเริ่มตอนอายุ 40 ปีอาการเริ่มเป็นใหม่ๆจะมีอาการขี้ลืม และสูญเสียสมาธิ ซึ่งอาการแรกๆอาจจะวินิจฉัยยากเพราะอาการนี้ก็เป็นกับผู้สูงอายุเป็นส่วน ใหญ่ การดำเนินโรคจะค่อยเป็นค่อยไป และทรุดลงในช่วงระยะ 1-3 ปี มีปัญหาเรื่องวันเวลาสถานที่ และอาจหลงทางกลับบ้านไม่ถูก ลืมชื่อญาติสนิท หวาดระแวง สับสน โดยเฉพาะกลางคืนอาจไม่นอนทั้งคืน จะออกนอกบ้าน และมีพฤติกรรมก้าวร้าว บางคนก็กลับเปลี่ยนไป เป็นไม่สนใจสิ่งแวดล้อม งดงานอดิเรกที่เคยทำ เช่น เก็บกวาดต้นไม้ หรือดูทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนหนึ่งเพราะดูและอ่านไม่ค่อยเข้าใจ คิดคำนวณไม่ได้ ใช้จ่ายทอนเงินไม่ถูก เมื่อเวลาผ่านไปอีก 2-3 ปี อาการยิ่งทรุดหนัก ความจำเลวลงมาก จำญาติไม่ได้ เคลื่อนไหวช้าลง ไม่ค่อยยอมเดิน หรือเดินก็เหมือนก้าวขาไม่ออก ลังเล ทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเอง เช่นอาบน้ำ แปรงฟัน รับประทานอาหารไม่ได้ พูดน้อยลง ไม่เป็นประโยค ที่สุดก็ไม่พูดเลย กลั้นปัสสาวะ อุจจาระไม่ได้ ต้องมีคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะเสียชีวิตในเวลา 2-10 ปี โดยเฉลี่ย 10 ปี ด้วยโรคแทรก เช่น ติดเชื้อจากปอดบวม หรือแผลกดทับ

โรค Alzheimer สามารถแบ่งระยะของโรคได้ 3 ระยะได้แก่

  1. ระยะเริ่มแรกผู้ป่วยจะรับรู้ว่าขี้ลืม ลืมปิดเตารีด ลืมปิดประตู ลืมชื่อคน ลืมรับประทานยา ต้องให้คนช่วยเขียนรายการที่จะทำ
  2. ระยะที่สองผู้ป่วยจะสูญเสียความจำโดยเฉพาะความจำที่เพิ่งเกิดใหม่ๆโดยอาจจะจำเรื่องราวในอดีต เริ่มใช้คำพูดไม่ถูกต้อง อารมณ์จะผันผวน
  3. ระยะที่สาม ผู้ป่วยจะสับสน ไม่รู้วันรู้เดือน บางรายมีอาการหลงผิด หรือเกิดภาพหลอน บางรายอาจจะก้าวร้าวรุนแรง ปัสสาวะราด ไม่สนใจตนเอง

อันที่จริงโรคนี้มีมานานแล้วโดย Dr. Alois Alzheimer เป็นแพทย์ชาวเยอรมันเป็นผู้บรรยายไว้ตั้งแต่ปี คศ.1906 ที่นำมากล่าวขานกันระยะหลังนี้มากขึ้น ด้วยเหตุมีผู้ที่เคยเป็นผู้นำประเทศอย่าง Ronald Reagan ป่วยเป็นโรคนี้ และ วงการแพทย์ค้นพบปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและอาจเป็นสาเหตุของโรคนี้มากขึ้น ที่สำคัญคือ สามารถผลิตยาที่ช่วยทำให้อาการของอัลไซเมอร์ดีขึ้น

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงคือ 

  1. อายุ ยิ่งอายุมากยิ่งมีโอกาสเป็นมากดังกล่าว พบว่าร้อยละ25ของผู้ป่วยอายุ 85ปี เป็นโรคนี้
  2. โรคความดันโลหิตสูงเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูงทำให้ผู้ป่วยสูญเสียความจำ การรักษาความดันจะทำให้ความจำดีขึ้น
  3.  เรื่องของกรรมพันธุ์ ถ้ามีบุคคลในครอบครัวป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ โอกาสที่จะเป็นก็มากขึ้น เรื่องพันธุกรรมนี้มีความก้าวหน้าขึ้นมาก เช่น ทราบว่าความผิดปกติของยีน (gene) ที่สร้าง amyloid precursor protein จะทำให้ได้โปรตีนที่ผิดปกติ ก่อให้เกิดตะกอนที่เรียกว่า amyloid plaques ในเนื้อสมอง และผู้ที่มี gene บนโครโมโซมที่ 19 ชนิด Apolipoprotein E4 จะมีโอกาสเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้มากกว่าคนปกติ นอกจากนี้ ยังพบโปรตีนที่ผิดปกติอื่นๆ เช่น Tau protein ที่อาจเกี่ยวข้องกับการเกิดกลุ่มใยประสาทที่พันกัน (Neurofibrillary tangles) ที่พบเป็นลักษณะจำเพาะของพยาธิสภาพของโรคอัลไซเมอร์

ยากับโรคอัลไซเมอร์

การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน เริ่มมีความสำคัญ ในต่างประเทศพบว่าผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่รับประทานฮอร์โมนเอสโตรเจนมี โอกาสเกิดโรคอัลไซเมอร์น้อยกว่า และเป็นโรคช้ากว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ยานี้

ยากลุ่มต้านการอักเสบที่เรียกว่า NSAID ก็พบว่า อาจมีบทบาทลดอุบัติการณ์ของโรค เนื่องจากพบว่าผู้ที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์มีประวัติใช้ยากลุ่มนี้น้อยกว่าผู้ ที่ไม่ได้เป็น นอกจากนี้ยาหรือสารต้านอ๊อกซิแดนท์ต่างๆ เช่น วิตามิน C และ E รวมถึงใบแปะก๊วย (gingo bibloa) ก็กำลังอยู่ในความสนใจ และมีการศึกษากันอย่างกว้างขวาง ว่าอาจจะช่วยหรือป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้

ผู้ป่วยอัลไซเมอร์จะมีปริมาณเซลล์สมองลดลง และสารสื่อประสาท อะเซติลโคลีนลดลงด้วย สารสื่อประสาทนี้เป็นตัวเชื่อมโยงคำสั่งต่างๆ ของเซลล์สมองที่ควบคุมด้านความจำ ความคิดอ่านและพฤติกรรมต่างๆ เมื่อสารอะเซติลโคลีนลดลง จึงทำให้เกิดอาการต่างๆของโรคอัลไซเมอร์ ปัจจุบันมียาที่ช่วยเพิ่มปริมาณของสารอะเซติลโคลีนในสมอง โดยออกฤทธิ์ต้านเอ็นไซม์อะเซติลโคลีนเอสเตอเรสที่ย่อยสลายอะเซติลโคลีน ยานี้จึงช่วยให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ มีอาการดีขึ้นได้ และชลอการทรุดลงของโรคถ้าได้ใช้ในระยะเริ่มแรก แต่จะไม่ทำให้โรคหายขาด

การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์

การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ต้องให้ความเข้าใจ เห็นใจ ว่าผู้ป่วยไม่ได้ตั้งใจที่จะก้าวร้าว หงุดหงิดอย่างที่เราเห็น แต่เป็นจากตัวโรคเอง ไม่ควรทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่มั่นใจ อาย หรือหงุดหงิด เช่น ถ้าคุยอะไรแล้วผู้ป่วยนึกไม่ค่อยออกหรือจำไม่ได้ ควรเปลี่ยนเรื่อง เอาเรื่องที่คุยแล้วมีความสุข ผู้ป่วยไม่สามารถคิดเลขได้ ไม่สามารถเล่นดนตรีแต่สามารถร้องเพลงพร้อมกับวิทยุ เล่นหมากรุกไม่ได้ แต่สามารถเล่นเทนนีสได้ หรือถ้ามีความคิดอะไรผิดๆ ไม่ควรเถียงตรงๆ ถ้าไม่จำเป็นก็อาจไม่ต้องอธิบายมาก เนื่องจากจะทำให้หงุดหงิด และหมดความมั่นใจ

ควรจัดห้องหรือบ้านให้น่าอยู่ สดใส ใช้สีสว่างๆ ถ้าในรายที่ชอบเดินไปมามากๆ ต้องใช้เทคนิคการเบี่ยงเบนความสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรืออาจใช้การพาดเสื้อผ้า ไว้ที่ลูกบิดประตูเพื่อไม่ให้เห็นลูกบิด ต้องเก็บของมีคม หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าให้มิดชิด ปิดวาวล์เตาแก๊สไว้เสมอ เป็นต้น

ในรายที่มีอาการที่เริ่มจะดูแลยาก เช่น ก้าวร้าวมาก เอะอะโวยวาย สับสนมาก หรือ เดินออกนอกบ้านบ่อยๆ ควรพาไปพบแพทย์ระบบประสาท เนื่องจากอาจจำเป็นต้องใช้ยาช่วยลดอาการดังกล่าว

การดูแลผู้ป่วยตามระยะของโรค

ผู้ป่วยในระยะแรก 

  • บอกการวินิจฉัยให้แก่ผู้ป่วยเพื่อที่แพทย์จะสามารถให้การรักษาได้ตั้งแต่เริ่มเป็น แพทย์ ผู้ที่ดูแล และผู้ป่วยจะต้องมาปรึกษาว่าจะเกิดภาวะอะไรกับผู้ป่วย เช่นความจำ อารมณ์เป็นต้น
  • อารมณ์ เนื่องจากผู้ป่วยจะมีอารมณ์ที่ผันผวนอย่างรวดเร็ว อาจจะกร้าวและโกรธจัด พฤติกรรมนี้เกิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง และเกิดจากที่ผู้ป่วยสูญเสียความรู้และไม่สามารถเข้าใจสิ่งต่างๆรอบตัว และไม่สามารถใช้คำพูดได้อย่างเหมาะสมจึงทำให้ผู้ป่วยมีอารมณ์ที่แปรปรวน ผู้ให้การดูแลต้องจัดสิ่งแวดล้อมให้เรียบง่าย ให้เงียบ เวลาพูดกับผู้ป่วยต้องช้าๆ และให้ชัดเจน ไม่ให้ทางเลือกกับผู้ป่วยมากไปเนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถตัดสินใจได้ถูกต้อง เช่นให้ผู้ป่วยเลือกเสื้อผ้าเอง ผู้ป่วยไม่สามารถเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากันซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยโกรธ เมื่อผู้ป่วยโกรธ หรือตะโกนอาจจะหาของว่างให้รับประทาน หรือขับรถให้ผู้ป่วยเที่ยวซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยสงบ ผู้ให้การบริการจะต้องมีอารมณ์ทีสงบ อารมณ์ไม่ฉุนเฉียว
  • ความสะอาด ผู้ป่วยมักจะไม่อยากอาบน้ำ ผู้ป่วยอาจจะเลือกเสื้อผ้าไม่เหมาะสมผู้ดูแลอย่าโกรธ ต้องแสดงความเห็นใจ
  • การขับรถ เมื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ห้ามขับรถ ต้องป้องกันผู้ป่วยออกนอกบ้านโดยการ lock ประตูและอาจจะติดสัญญาณเตือนเมื่อผู้ป่วยออกนอกบ้านพยายามให้ผู้ป่วยออกกำลัง เช่นเดินครั้งละ 30 นาทีวันละ 3 ครั้งจะทำให้ผู้ป่วยเพลียและหลับง่าย
  • การนอนหลับ มีคำแนะนำให้เปิดไฟให้สว่างในเวลากลางวัน จะทำให้ผู้ป่วยหลับในเวลากลางคืน

การดูและในระยะท้ายของโรค

  • ผู้ป่วยจะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ หากมีอาการดังกล่าวจะต้องตรวจดูว่ามีโรคติดเชื้อหรือไม่ ผู้ดูแลสามารถกะเวลาปัสสาวะได้โดยกำหนดเวลา และปริมาณน้ำและอาหารที่ให้ และสามารถพาผู้ป่วยไปห้องน้ำได้ทัน
  • การเคลื่อนไหว ระยะท้ายผู้ป่วยจะจำไม่ได้ว่าเคลื่อนไหวอย่างไร จะนอนหรือนั่งรถเข็น ผู้ดูแลต้องคอยพลิกตัวผู้ป่วยทุกสองชั่วโมง ทำกายภาพบำบัดเพื่อแก้ข้อติด
  • การรับประทานอาหาร ผู้ป่วยจะกลืนอาหารไม่ได้ต้องให้อาหารทางสายยาง ผู้ดูแลต้องระวังสำลักอาหาร

neuสรุป ข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ ได้แก่

  1. อัลไซเมอร์เป็นโรค ไม่ใช่ภาวะสมองเสื่อมตามธรรมชาติ หรือตามอายุที่มากขึ้น
  2. สาเหตุยังไม่ทราบชัด แต่น่าจะมีส่วนจากพันธุกรรม อาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ดังนั้นสามารถเกิดได้กับทุกคน
  3. ขณะนี้ ยังไม่สามารถป้องกัน และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
  4. การดูแล ความเห็นอกเห็นใจ และความเข้าใจ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลผู้ป่วย
  5. ถ้ามีญาติที่เริ่มมีอาการหลงลืม ควรพบแพทย์ระบบประสาท อาจเป็นสาเหตุอื่นที่รักษาหายขาดได้
  6. โรคนี้มักเกิดในผู้สูงอายุ ดังนั้น ผู้ที่รู้สึกว่าหลงลืมบ่อยโดยที่อายุไม่มาก (20-50 ปี) มักเกิดจากสาเหตุอื่น ส่วนมากเกิดจากการพักผ่อนไม่พอ เครียด ไม่มีสมาธิ ควรแก้ไขสิ่งเหล่านี้ ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยปรึกษาแพทย์ เพราะมักเป็นสาเหตุที่รักษาให้หายขาดได้
  7. เนื่องจากยังไม่มีการวินิจฉัยที่แน่นอนการวินิจฉัยจะอาศัยหลัก 3ประการ
  • มีอาการสมองเสื่อม อาการจะเริ่มจากความจำเสื่อม การเรียนรู้เสียไป
  • อาการของโรคจะดำเนินต่อเนื่องไม่หาย
  • ต้องแยกภาวะหรือโรคอื่นที่ทำให้เกิดอาการสมองเสื่อม
  1. ไม่ควรกลัวโรคนี้จนเกินไป เนื่องจากขณะนี้มีการวิจัยเรื่องนี้มากมายทั่วโลก เชื่อว่าอีกไม่นานนัก อาจมียาที่รักษาหรือป้องกันได้
  2. ในทางการแพทย์ ยังไม่แนะนำให้ทานยาใดๆเพื่อป้องกัน เพราะมักไม่ได้ผล และยาหรือสมุนไพรหรืออาหารเสริมเหล่านี้ส่วนมากมีราคาแพง และมักโฆษณาเกินความจริง

หากท่านสงสัยว่าอาจเป็นอัลไซเมอร์ ควรมาพบประสาทแพทย์เพื่อรับการตรวจโดยละเอียด และวินิจฉัยแยกโรค เนื่องจากมีโรคหลายอย่างที่มีอาการความจำเสื่อม ซึ่งรักษาให้หายได้ เช่น โรคไทรอยด์ , ซิฟิลิสขึ้นสมอง หรือโรคขาดวิตามิน B12 เป็นต้น ถ้าหากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ ก็อย่าตกใจ เพราะแพทย์ช่วยท่านได้.


 

การรักษาโรคสมองเสื่อม Alzheimer ยังได้ผลไม่พอใจ นักวิทยาศาสตร์จึงให้เน้นเรื่องการป้องกันโรคสมองเสือ่ม Alzgeimer ประกอบกันเริ่มมีหลักฐานสนับสนุนเรื่องอาหารและการออกกำลังกายที่สามารถลด การเกิดโรคสมองเสื่อม Alzheimer

แนวทางการรับประทานอาหารเพื่อป้องกันการเกิดโรคสมองเสื่อม Alheimer

ซึ่งรายงานในการประชุมวิชาการที่ International Conference on Nutrition and the Brain เมื่อวันที่19-20 กรกฎาคม 2556

แนวทางมีดังนี้

  1. รับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว และไขมัน trans fats ให้น้อยที่สุด ไขมันอิ่มตัวพบมากในอาหารประเภท นม เนื้อสัตว์(เนื้อ แดง เช่นเนื้อหมู วัว ไส้กรอก เครื่องใน) ส่วนไขมัน trans fatพบมากในคุกกี้ อาหาร Fast food ทั้งหลาย โดยพบว่าผู้ที่บริโภคไขมันอิ่มตัว หรือ trans fat สูงมีโอกาศที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมมากกว่าคนที่บริโภคน้อยประมาณ 2-3 เท่า เชื่อว่าไขมันที่สูงจะทำให้เกิดการสร้างสาร beta-amyloid plaques ในสมอง
  2. รับประทานผัก ผลไม้ พืชตระกูลถั่วให้มาก อาหารดังกล่าวจะอุดมไปด้วย vitamins เช่น folate และ vitamin B6 ซึ่งจะมีผลดีต่อสมอง
  3. รับประทานอาหารจำพวกถั่ววันละ 1 กำมือซึ่งจะมีวิตามินอีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  4. รับประทานอาหารที่มีวิตามิน บี12 หรืออาจจะรับประทานวิตามินบี 12 เสริมขนาด 2.4 mcg ต่อวัน
  5. เลือกวิตามินรวมที่ไม่มีฐาตุเหล็กและทองแดง ร่างกายจะได้รับแร่ฐาตุทั้งสองจากอาหาร การที่มีแร่ฐาตุทั้งสองสูงไปจะมีผลต่อการเรียนรู้ วิตามินรวมส่วนใหญ่จะมีแร่ฐาตุทั้งสองรวมอยู่
  6. หลีกเลี่ยงการประกอบอาหารบนภาชนะพลาสติก ยากระเพาะ antacid ผงฟู หรืออาหารอื่นที่มีอลูมิเนี่ยม เนื่องจากยังสงสัยว่าอลูมิเนี่ยมจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคสมองเสื่อม
  7. ให้ออกกำลังแบบ aerobic exercise เป็นประจำเทียบเท่าการเดินเร็ววันละ 40 นาทีสัปดาห์ละ 3 ครั้ง การออกกำลังแบบ aerobic

 


แสดงความคิดเห็น
ค้นหาบทความ
สินค้าแนะนำ
  • 00009 : Mega We care Grape seed Extract 20 mg - 60 capsule 00009 : Mega We care Grape seed Extract 20 mg - 60 capsule 700 560 บาท

  • 00568: โคมไฟส่องทำแผล (Examination lamp) 00568: โคมไฟส่องทำแผล (Examination lamp) 0 บาท

  • 00312: ไม้ค้ำยัน 00312: ไม้ค้ำยัน 350 บาท

  • 00577: แผ่นให้ความร้อน (Beurer - Germany) 00577: แผ่นให้ความร้อน (Beurer - Germany) 1,890 บาท

  • 00010 : Mega We care Bioton - 50 capsule 00010 : Mega We care Bioton - 50 capsule 510 408 บาท

  • 00725 : รถยกอาบน้ำขับถ่ายระบบไฮดรอริก (Full Electric Lifter and Transfer - Bathing) 00725 : รถยกอาบน้ำขับถ่ายระบบไฮดรอริก (Full Electric Lifter and Transfer - Bathing) 35,000 29,500 บาท

  • 00633: เครื่องชั่งน้ำหนักเด็กทารก, Beurer (Germany) 00633: เครื่องชั่งน้ำหนักเด็กทารก, Beurer (Germany) 4,490 3,990 บาท

  • 00347: เครื่องวัดความดัน OMRON HEM-7200 00347: เครื่องวัดความดัน OMRON HEM-7200 2,850 2,390 บาท

  • 00020 : Mega We care Zemax SX - 30 capsule 00020 : Mega We care Zemax SX - 30 capsule 550 440 บาท